กระชายขาวอินทรีย์
กระชายขาวหรือเหลือง(fingerroot, Chinese ginger) ด้วยความที่โรคระบาด โควิด 19 นั่นเอง ดังนั้นความต้องการไม่ว่าจะเป็นไว้รับประทานเป็นอาหาร หรือทำเป็นเครื่องดื่ม เพื่อบรรเทาอาการทางโรค เช่น โรคทางเดินปัสสาวะ หรือกำจัดไวรัส ดังที่เป็นข่าว https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=30701 ซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่ในรูปแบบที่ทานได้ง่ายคือ แคปซูล(capsules) ด้วยการสกัดเป็นตัวยา นำมาใช้ให้เกินประโยชน์ และมีการจำกัดการใช้งานให้เหมาะสมกับร่างกายด้วยนะครับ
การปลูกของออนนิออร์แกนิคฟาร์ม(Growth)
เราเลือกที่จะปลูกใส่กระถาง ด้วยการทำดินเป็นส่วนผสมก่อนจะได้ง่ายต่อการเก็บเกี่ยวนั่นเอง ส่วนผสม มีดังนี้ แกลบดำ แกลบดิบ ทราย ดิน และมูลสัตว์ ซึ่งปัจจัยในกาเจริญเติบโตนั้นมูลสัตว์จะช่วยให้แร่ธาตุอาหารที่จำเป็น เราเป็นพบว่ามีความต้องการค่า ฟอสฟอรัสสูงกว่าธาตุอื่นๆ
แต่ปัญหาเราไปพบว่า มูลสัตว์นั้นมีเมล็ดวัชพืชเกิดขึ้นมาก ซึ่จะคอยแย่งอาหารของต้นกระชายขาว ดังนั้นก่อนที่เราจะทำเราจะนำมาหมักให้เกิดการย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์หน่อกล้วยและมีการปรับความเป็นกรดด้วยโดโลไมท์(Dolomite) นั่นเอง
บางอย่างที่เราอยากจะทำนั้นมักจะเกิดปัญหา ซึ่งตอนนี้ออนนิออร์แกนิคฟาร์ม กาญจนบุรี เราเลือกปลูกกระชายมาปีที่สอง กับการทำเป็นกระชายอินทรีย์
กระชายขาวคู่กับวัฒนธรรมการกิน(Cultural)
ทุกคนชอบที่จะมองที่เป็นผลิตภัณฑ์ของกระชาย สิ่งที่ออนนิออร์แกนิคฟาร์มเราอยากให้มองเห็นคือเข้าใจว่ากว่าที่จะมาเป็นกระชายกับวัฒนธรรมนั้นมีมาอย่างไร แน่นอนอาหารที่นำกระชายมาเป็นส่วนประกอบนั้นมีมาก เนื่องจากเป็นกลิ่นเฉพาะตัว(unique smell) และดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์นั่นเอง ดังนั้นการนำมาทำเป็นส่วนประกอบอาหารนั้น เช่น ผัดฉ่า ผัดเผ็ด เครื่องแกง น้ำกระชาย
ปลูกกระชายง่ายรึเปล่า
ทีนี้เรามาดูกันว่าอะไรที่เราต้องรู้และเข้าใจในตัวของต้นกระชาย
- เป็นไม้ที่ให้ผลทางหัว เหมือนขมิ้น เผือก มัน
- มีกลิ่นเฉพาะตัว
- ปลูกได้ทุกสภาพดิน
- อายุการเก็บเกี่ยวที่เหมาะกับการ
- นำมาใช้ อย่างน้อย 8 เดือนหรือปีละครั้งก็ว่าได้
- ปุ๋ยเน้นให้ผลทางหัว (N:P:K)
- การสังเคราะห์อาหารทางใบแล้วให้ทางรากหรือหัวนั่นเอง
- นำหน่อหรือต้นไปปลูกได้
ด้วย ณ ปัจจุบัน การระบาดของโรค โควิด ซึ่งมีวิธีรักษาทั้งหมอปัจจุบันและหมอแผนสมุนไพร ได้นำสมุนไพรมาใช้ ที่เห็น คือ ฟ้าทะลายโจร กับกระชาย นั่นเอง ผมคงไม่ได้ไปบอกสรรพคุณเรื่องรักษาโรคโควิดได้นะครับ แต่ผมจะพูดถึงมันส่งผลดีต่อเกษตรกรที่ผลิตออกจำหน่าย ซึ่งราคาหน้าสวนเริ่มที่ 30 บาท ขึ้นกับตลาดนั่นเองและสถานการณ์
ทีนี้ที่ออนนิฯเราอยากจะส่งเสริม เรื่องการแปรรูป เพื่อที่จะสะดวกในการจัดส่งในปัจจุบัน เป็นเรื่องง่ายไปแล้ว สินค้าที่นำมาแปรรูปได้มีหลายชนิด
- สบู่
- ผง
- สารสกัด
- น้ำมันหอม
- น้ำสมุนไพร
- เครื่องสำอางค์
ซึ่งจะช่วยในการส่งตอหรือทำให้เกษตรกรพัฒนาและยั่งยืนมากขึ้น แทนที่จะขายเป็นวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว
การเก็บเกี่ยว(Harvest)
นี่แหละที่ผมมองว่ามีผลมากๆ กับราคา เพราะเราจะเก็บกระชายยังไงให้ไม่ขาดหรือไม่สวยนั่นเอง มาดูกันหน่อยว่าเขาเก็บกันอย่างไร
เมื่ออายุของกระชายได้ ต้นกระชายจะแห้งและตายลง ทำให้อาหารนำถูกไปเก็บไว้ที่รากหรือหัวนั่นเอง ดังนั้นช่วงนี้มีผลต่อการเก็บมากๆ ไม่เร็วหรือช้าเกินไป รีบเก็บเร็วไป เราจะพบว่ากลิ่นกระชายจะน้อย เก็บช้ามากไปแมลงก็จะลงมากินหัวกระชายนั่นเอง
- อุปกรณ์การเก็บต้องใช้แรงงานคนอย่างเดียว มี น้ำ ปั๊มแรงดันน้ำ
- ระยะเวลามีจำกัด แต่ละแปลง ถ้าปล่อยให้น้ำเข้าขังเพื่อให้ดินนุ่มจะได้ทำงานได้ง่าย
- การให้น้ำแช่หัวกระชาย ก่อนที่จะทำการเก็บ
- เริ่มทำงานพร้อมกับชุดเปียกๆ ตลอดเวลา
- เริ่มจากการดันน้ำเข้าไปในร่องแล้วค่อยๆ เก็บหัวกระชายขึ้นมา
- นำกระชายมาผึ่งลมให้แห้ง
- ตัดแต่งหัวให้มีความสวยงาม
- ไม่รวมแพคหรือการนำไปแปรรูปอื่นๆ อีกต่อไป
นี่แหละที่ผมอยากจะเล่าให้คนทีเห็นว่าราคาแพงไปหรือถูกไป แต่หากเข้าใจว่าเกษตรกรทำกระชายเขาทำงานกันอย่างไร กว่าที่เราจะได้กินกัน
การกินกระชายตามตลาดเราจะทำยังไง
หลายคนที่กำลังมองหาว่าจะทำอย่างไรที่จะ กินกระชายได้อย่างปลอดภัย เอาแบบนี้ถ้าแนะนำหาแหล่งที่ปลอดภัยไม่ได้ หรือมีความจำเป็นต้องรับประทานสด
- ล้างด้วยน้ำสะอาดด้วยการไหลผ่าน
- ล้างน้ำเกลือ
- ล้างด้วยด่างทับทิมหรือโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต (KMnO4)
อันนี้พอเป็นไอเดียส่วนใครที่จะมีวิธีหรือหาวิธีก็เลือกเอาที่ปลอดภัยล่ะกัน ซึ่งในการรับประทานกระชายนั้นมีหลายวิธี เช่น
- การทานสด ด้วยการปั่นหรือกินเหง้าเลย
- การผสม เนื่องจากความเข้มข้นหรือกลิ่นอาจจะไม่ถูกในบางคน จึงเลือกที่จะผสมกับน้ำผึ้ง น้ำตาล อื่นๆ เพื่อที่ให้เราทานได้ง่าย
- การทานแห้งเป็นแคปซูล ต้องมีการแปรรูป ผ่านการอบแห้งและบดให้ละเอียด แล้วใส่แคปซูลเพื่อที่จะได้กินได้ง่ายนั่นเอง
ออนิออร์แกนิคฟาร์ม กาญจนบุรี โทร.0860447460